วันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2562

ศิลปะโรมัน (Roman)


ศิลปะโรมัน (Roman)

แบบอย่างศิลปะโรมันปรากฎลักษณะชัดเจนในช่วงพุทธศตวรรษที่ 4 เรื่อยมาจนกระทั่งประมาณ พ.ศ. 1040 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนาคริสต์ จนกระทั่งเมื่อกรุงคอนสะแตนติโนเปิลได้กลายเป็นเมือง หลวงใหม่ของจักรวรรดิโรมัน ในปี พ.ศ.870 ทำให้สมัยแห่งโรมันต้องสิ้นสุดลง แหล่งอารยธรรมสำคัญของโรมัน คือ อารยธรรมกรีกและอีทรัสกัน
          จิตรกรรม
           จิตรกรรมของโรมัน อาศัยจากการค้นคว้าข้อมูลจากเมืองปอมเปอี สตาบิเอ และเฮอร์คิวเลนุม ซึ่งถูกถล่มทับด้วยลาวาจากภูเขาไฟวิสุเวียส จิตรกรรมฝาผนังประกอบด้วยแผงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งมักเลียนแบบหินอ่อนเป็นภาพทิวทัศน์ ภาพคน และภาพเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมมีการใช้แสงเงา และกายวิภาคของมนุษย์ชัดเจน เขียนด้วยสีฝุ่นผสมกับกาวน้ำปูนและสีขี้ผึ้งร้อน ยังมี ภาพประดับด้วยเศษหินสี (Mosaic) ซึ่งใช้กันอย่างกว้างขวาง ทั้งบนพื้นและผนังอาคาร
           ประติมากรรม
          ประติมากรรมของโรมัน รับอิทธิพลมากจากชาวอีทรัสกันและกรีกยุคเฮเลนิสติก แสดงถึงลักษณะที่ถูกต้องทางกายภาพ เป็นแบบอุดมคติที่เรียบง่าย แต่ดูเข้มแข็งมาก ประติมากรรมอีกชนิดหนึ่งที่เป็นที่นิยมคือ ประติมากรรมรูปนูนเรื่องเกี่ยวกับประวัติศาสตร์  มีรายละเอียดของเรื่องราวเหตุการณ์ถูกต้อง ชัดเจน วัสดุที่ใช้สร้างประติมากรรมของโรมันมักสร้างขึ้นจาก ขี้ผึ้ง ดินเผา หิน และสำริด

           สถาปัตยกรรม
           สถาปัตยกรรมโรมัน ได้แก่อาคารต่าง ๆ ส่วนมากเป็นรูปทรงพื้นฐาน วัสดุที่ใช้สร้างอาคารได้แก่ ไม้ อิฐ ดินเผา หิน ปูนและคอนกรีต มีการนำสถาปัตยกรรมที่สำคัญของกรีกทั้ง 3 แบบ มาเปลี่ยนแปลงและปรับปรุงให้วิจิตรบรรจงขึ้น ชาวโรมันเพิ่มการตกแต่งลงไป เสาของโรมันจะเป็นเสาหินท่อนเดียวตลอดรูปแบบ สถาปัตยกรรมที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของโรมัน คือ สะพานส่งน้ำ ซึ่งใช้เป็นทางส่งน้ำจากภูเขามาสู่เมืองต่าง ๆ ของชาวโรมันเป็นสิ่งก่อสร้างที่แสดงถึงความก้าวหน้าทางวิศวกรรมของโรมัน
สถาปัตยกรรมโรมัน ในช่วง พ.ศ. 600 – 873 ได้สะท้อนให้เห็นความมั่งคั่งและอำนาจของจักรวรรดิโรมัน อาคารสถาปัตยกรรมมีขนาดกว้างใหญ่และมีการตกแต่งอย่างฟุ่มเฟือย มีการควบคุมทำเลที่ตั้ง การจัดภูมิทัศน์อย่างพิถีพิถัน ภายในอาคารมักประดับด้วยหินอ่อน หินสี และประติมากรรมแกะสลักตกแต่งอย่างสวยงาม
           โฟรัม (Forum)  เป็นย่านชุมนุมชน สถานที่ราชการ ตลาด  โฟรัมจะมีลักษณะเป็นลานกว้างแต่บางแห่งอาจจะมีหลังคา บริเวณรอบ ๆ จะรายล้อมด้วย อาคาร สถานที่ราชการ วิหาร หอสมุด ที่มีชื่อเสียงในสมัยจักรวรรดินี้คือ โฟรัมของทราจัน (Forum of Trajan)

                                                           โฟรัม

            วิหาร (Temple) สิ่งก่อสร้างที่สำคัญในยุคจักรวรรดิต้น คือ วิหารแพนเธออน (Pantheon) สร้างขึ้นราว 27-25 BC.  โดยจักรพรรดิมาร์คุส  วิบซานิอุส  อะกริบปา

วิหารแพนเธออน (Pantheon)

                บาซิลิกา (Basilica)  เป็นชื่อเรียกอาคารขนาดใหญ่ซึ่งใช้เป็นศาลยุติธรรมและอาคารพาณิชย์ของรัฐ ที่มีชื่อเสียงมากคือ บาซิลิกา อุลปิอา (Basilica Ulpia)  และบาซิลิกาโนวา (Basilica Nova)
 บาซิลิกา (Basilica)
            สะพานและท่อส่งน้ำ (Bridges and Aqueduct)  การทำท่อน้ำมีทั่วไปในอาณาจักรโรมันเพื่อบริการน้ำสะอาดแก่ประชาชน บางแห่งต้องลำเลียงน้ำผ่านหุบเขาและที่ลุ่ม ท่อน้ำที่มีสะพานรองรับยกระดับน้ำผ่านหุบเขาและที่ลุ่มที่มีชื่อเสียงมาก คือ Pont Du Gard ที่เมืองนิมส์ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส มีช่วงที่ข้ามช่องเขาหลายตอนด้วยกัน การก่อสร้างแบบประตูโค้ง
Pont Du Gard

             โรงละครและสนามกีฬา (Theatres and Amphitheatres)  เป็นสถานที่พักผ่อนชมกีฬา ชาวโรมันมีด้วยกันหลายแห่งแห่งที่มีชื่อคือ Colosseum เป็นโรงมหรสพรูปวงกลมที่มีอัฒจันทร์ล้อมรอบ สำหรับเกมกีฬาต่อสู้และความบันเทิงของสาธารณชน
 Colosseum

              ประตูชัย (Triumphal Arch)  สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะจากสงคราม สร้างโดยจักรพรรดิ นิยมสร้างคร่อมถนนโดยทำเป็นแท่งสี่เหลี่ยม ตรงกลางทำเป็นทางลอดและประตูโค้ง บริเวณส่วนหน้าและหลังประดับด้วยประติมากรรมและข้อความจารึกเหตุการณ์หรือ วีรกรรมของผู้สร้างที่ได้ชัยชนะจากสงคราม 


                                                      ประตูชัย (Triumphal Arch) 


                 โรงอาบน้ำสาธารณะหรือเธอร์เม (Thermae or Bath) Thermae มาจาก Thermos แปลว่า ร้อน ในภาษากรีก ใช้สำหรับเรียกชื่ออาคารสถานที่ที่ใช้สำหรับอาบน้ำกับที่ออกกำลังกายในร่ม ของชาวโรมัน เธอร์เม ที่สำคัญเป็นของจักรพรรดิคาราคารา (Bath of Caracalla) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 211  มีความกว้าง 120 หลา ยาว 240 หลา จุคนได้ 1600 คน


 โรงอาบน้ำสาธารณะหรือเธอร์เม (Thermae or Bath) 

                   สนามกีฬาหรือเซอร์คัส (Circus) ใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของโรมันอีกแห่ง ส่วนใหญ่ใช้แข่งม้า ที่มีชื่อเสียงมากคือสนามกีฬา แมกซิมุส The Circus Maximus


สรุปศิลปะสมัยโรมัน






2 ความคิดเห็น: