History of art.
ประวัติศาสตร์ศิลปะ
"ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น"
Ars longa, vista brevis
"ศิลปะยืนยาว ชีวิตสั้น"
Ars longa, vista brevis
- ศิลป์ พีระศรี-
การศึกษาประวัติศาสตร์มีความสำคัญอย่างยิ่ง
เนื่องจากประวัติศาสตร์จะบ่งบอกความเป็นมาและวิวัฒนาการว่ามีแบบอย่าง
ความเคลื่อนไหว แนวคิด ความเชื่ออย่างไร
การศึกษาประวัติศาสตร์ศิลป์ทำให้เราทราบถึงรูปแบบผลงานการสร้างสรรค์และวิวัฒนาการศิลปะของมนุษยชาติตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ถึงยุคปัจจุบัน
ศึกษาแนวคิดความเชื่อ รูปแบบและบริบทแวดล้อม
การเปลี่ยนแปลงของศิลปกรรมของแต่ละยุคสมัย ที่จะเป็นแบบอย่างเพื่อการพัฒนา
ยกระดับคุณภาพของงานศิลปะหรืองานสร้างสรรค์ในยุคปัจจุบัน นอกจากนั้นการศึกษาประวัติศาสตร์
ยังช่วยให้เกิดความซาบซึ้งในคุณค่าของงานศิลปะ
มีความภาคภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรมของมวลมนุษยชาติ
ตัวอักษรย่อที่บอกช่วงเวลาทางประวัติศาสตร์
การศึกษาประวัติศาสตร์จำเป็นจะต้องใช้การศึกษาบริบทของช่วงเวลา หรือเส้นแบ่งเวลา (Time line) เป็นตัวกำหนดเหตุการณ์ รูปแบบ ก่อนหลัง การกำหนดยุคสมัยเพราะทำให้ง่ายต่อการจัดเรียงและทำความเข้าใจ ตัวย่อของเวลาในทางประวัติศาสตร์ที่มักพบเห็นได้บ่อย มีดังนี้
·
B.C. (Before Christ) หมายถึง ก่อนคริสตกาล หรือก่อน ค.ศ. 1
·
C.E. (Common Era) หมายถึง สมัยคริสตกาล เริ่มนับจาก
ค.ศ. 1
·
A.D. (Anno Domini) หมายถึง ปีแห่งพระผู้เป็นเจ้า
หรือเรียกว่าคริสต์ศักราช
·
C. (Century) หมายถึง ศตวรรษ หรือ ช่วงเวลาหนึ่งร้อยปี เช่น ศตวรรษที่ 1 หมายถึง ช่วงเวลาตั้งแต่
ค.ศ. 1 – 100
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
ยุคสมัยทางประวัติศาสตร์นั้นนักประวัติศาสตร์ได้แบ่งยุคสมัยต่าง
ๆ โดยยึดเอาจุดเริ่มต้นของความมีอารยธรรมก้าวหน้าของมนุษย์ กล่าวคือการรู้จักประดิษฐ์ตัวอักษรเพื่อใช้ในการจดบันทึก
ซึ่งสามารถแบ่งได้ดังนี้
· สมัยก่อนประวัติศาสตร์
(Pre-historic
Arts)
· สมัยประวัติศาสตร์
(Historic
Arts)
นอกจากนี้การศึกษาประวัติศาสตร์ศิลปะยังมีการแบ่งออกเป็นศิลปะตะวันตกและตะวันออก
เพื่อให้ง่ายต่อการศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะของงานศิลปะของแต่ละพื้นที่
Good.
ตอบลบขอบคุณค่ะ :)
ลบVery good
ตอบลบ